พระเครื่องใน ๑ ตำนาน ของหลวงปู่พุทธะอิสระ
รูปหล่อ พระกริ่งอวโลกิเตศวร สร้างโดยหลวงปู่พุทธะอิสระ
ถ้าถามลูกศิษย์ของหลวงปู่เกือบทุกคน ก็คงจะทราบได้ว่า พระกริ่งอวโลกิเตศวร รุ่นนี้ เป็นพระรุ่นหนึ่ง
ที่ศิษย์หลายๆคน ล้วนใฝ่ฝันว่าจะได้มีเอาไว้บูชาติดตัว เพราะพระกริ่งรุ่นนี้ เป็นพระที่หลวงปู่สร้าง
ขึ้นที่ถ้ำไก่หล่น เป็นพระยุคต้นๆขององค์หลวงปู่ และพิธีการจัดสร้าง กับมวลสารที่ใช้ในการสร้าง
ก็ถือว่าเป็นสุดยอดในตำนานได้เลย
เพราะมีมวลสารที่เป็นโลหะชนิดพิเศษที่หายากมากอยู่หลายชนิด
และหลวงปู่ก็ยังจับปรอทมาผสมในขณะที่หล่อพระด้วย พระรุ่นนี้จึงมีผิวพรรณ
ที่เต็มไปด้วยปรอทที่พื้นผิว และเป็น ๑ ใน ๓
รุ่นที่หลวงปู่จับปรอทมาใส่ในพระเครื่อง ขนาดฟืนที่ใช้ในการหล่อ
ก็ต้องนำมาจากต้นไม้อาถรรพ์ที่ถูกฟ้าผ่าและยืนต้นตาย
และใช้เวลาในการจัดสร้างเพียงแค่ ๑๙ นาที ซึ่งหลวงปู่บอกว่าหล่อได้แค่ ๑๙
นาทีเท่านั้นมากกว่านั้นจะใช้ไม่ได้ จึงสร้างได้น้อยมาก
และประสบการณ์ของพระเครื่องรุ่นนี้ก็มีเกิดขึ้นมามากมาย จนมีนายตำรวจ
ท่านนึง นำพระกริ่งรุ่นนี้ เอาไปลองยิง ก็ยิงไม่ออก แต่หลังจากทดลองแล้ว
วันต่อมานายตำรวจผู้นั้นก็เกิดอาการทางประสาทขนาดหนัก เป็นอยู่ประมาณ2-3ปี
ต่อมาญาติได้นำมากราบขอขมา ต่อองค์หลวงปู่
อาการจึงดีขึ้นมากแต่ก็ยังไม่หายขาด
หลวงปู่ท่านจึงเตือนกับลูกศิษย์ทุกคนว่า อย่าเอาพระเครื่องของท่านไปลอง
เพราะมันจะเป็นการลบหลู่ครูอาจารย์ ถ้าจะมีประสบการณ์จากพระเครื่อง
ก็ปล่อยให้มันเกิดขึ้นเอง อย่านำเอาไปลองกันโดยเด็ดขาด
สมัยที่อยู่ถ้ำไก่หล่น ท่านแจกให้กับผู้ที่มาช่วยงานที่วัด
และให้บูชาในราคาไม่กี่บาท แต่ตอนนี้
มีเงินแสนก็ใช่ว่าจะได้ครอบครองกันง่ายๆ เพราะมีของปลอมขึ้นมาเยอะมาก
ทั้งในพื้นที่ จ.นครปฐม และพื้นที่ใกล้กับถ้ำไก่้หล่นเองก็ตาม
รายละเอียดในการจัดสร้างนั้นจะต้องรอติดตามจาก
หนังสือพระเครื่องที่วัดอ้อน้อยกำลังจัดสร้างขึ้นมา
เพื่อป้องกันปัญหาพระเครื่อง ที่ลอกเลียนแบบ และยัดวัดที่มีมากมาย
และยังได้ทราบถึงประวัติความเป็นมาของพระเครื่องที่หลวงปู่ท่านสร้างขึ้นมา
ที่มี
ความละเอียดอ่อนและรายละเอียดปลีกย่อยอีกมากมายในการจัดสร้างพระเครื่องแต่
ละรุ่นอีกด้วย
พระกริ่งอวโลกิเตศวรรุ่นนี้ ข้าพเจ้าเองก็มีวาสนาได้เพียงแค่สัมผัสและเห็นของจริงเท่านั้น
ยังไร้วาสนาที่จะมีไว้บูชาเช่นกันครับ ^___^
ขอบคุณที่มาของภาพจาก http://onoi-amulets.blogspot.com/201...g-post_15.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น