วันจันทร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2556

หล่อพระ 4แม่ทัพ




ขอเชิญทุกท่าน ร่วมงานตรุษจีน ที่โรงเจหอคุณธรรมฟ้า ณ.วัดอ้อน้อย (ธรรมะอิสระ) ระหว่างวันที่ 20-29 มกราคม 2554

ผู้ที่ได้ร่วมงาน จะได้รับอั่งเปาจากองค์หลวงปู่ เป็นธนบัตรเขียนคำอวยพร ซึ่งหลวงปู่ท่านเขียนด้วยมือท่านเองทุกใบ
แจกกันทุกวัน แจกกันทุกคน ฉลองรับปีมังกรทอง 10 วัน 10 คืน

และในเย็นวันศุกร์ที่ 27 ร่วมกันหล่อพระนาคปรกสูง 60 เมตร และหล่อระฆังพระปริตร 108 ใบ
รวมทั้งมีพิธียกฐานพระนาคปรกขึ้นสู่ที่ประดิษย์ฐาน โดยมีกำหนดการคร่าวๆดังนี้

วันศุกร์ที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๕๕
๐๗.๐๐ – ๑๘.๐๐ น. เปิดให้ประชาชนไว้บูชาขอพรเทพเจ้าและร่วมทำบุญในแผนกต่าง ๆ

๑๗.๐๐ น. แขกผู้มีเกียรติเดินทางถึงมณฑลพิธี
๑๗.๐๙ น. หลวงปู่พุทธะอิสระ เป็นองค์ประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วย
พลเอก สมทัต อัตตะนันทน์ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด
พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการทหารบกและ รมว.กลาโหม
พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา อดีตผู้บัญชาการทหารบก
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก
ประธานฝ่ายฆราวาส
ร่วมหล่อพระเกตุมาลา พระนาคปรก “ปกเกล้า ปกแผ่นดิน” และระฆังพระปริตร ๑๐๘ ใบ หลวงปู่พุทธะอิสระประจำอยู่ฐานพระด้านหน้า และแม่ทัพทั้ง ๔ ประจำทิศทั้ง ๔ (บริเวณด้านบนอาคารฐานพระ) เพื่อทำพิธียกฐานองค์พระนาคปรกฯ ขึ้นสู่อาคารที่ประดิษฐาน เพื่อเสริมดวงชะตาบ้านเมือง และสืบสานพระศาสนา พระสงฆ์เจริญพระชัยมงคลคาถา ( ตลอดพิธี)

ผม ได้ยินหลวงปู่บอกด้วย ว่า ท่านเตรียมแจกเหรียญพระนาคปรกในวันที่หล่อพระด้วย ตอนนี้ท่านกำลังจารอยู่ เพื่อเตรียมแจก จึงบอกได้คำเดียวว่างานนี้ห้ามพลาดครับ

อานิสงค์การหล่อพระเกต - จะทำให้เป็นผู้มีปัญญามาก

อานิสงค์การหล่อระฆังพระปริตร - จะทำให้เป็นผู้มีชื่อเสียง โด่งดังไปทั่วสารทิศ

อานิสงค์การยกฐานพระขึ้นตั้ง - จะทำให้ชีวิต การงาน ยั่งยืน มั่นคง

ถ้าใครพลาดนี้ ก็น่าเสียดายมากครับ


ภาพงานวันหล่อพระ 27 มกราคม 2555 ณ.วัดอ้อน้อย (ธรรมะอิสระ)










พราหมณ์หลวงทำพิธีอ่านโองการ



ท่านนายพลทั้ง ๔ ทำพิธีบวงสรวงก่อนการหล่อพระ






หลวงปู่ทำพิธีเททองหล่อพระ



หลวงปู่และท่านนายพลเดินขึ้นสู่ฐานพระนาคปรก






ผู้คนมากมายที่มาร่วมงาน




ผู้คนมากมายที่มาร่วมงาน



ท่านนายพลทั้ง ๔ ทำพิธีบวงสรวงก่อนพิธียกพระขึ้นสู่ฐาน



ท่านพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ทำการจับสลากเสี่ยงทายเพื่อประจำในแต่ละทิศของฐานพระ



ท่านพลเอก สมทัต อัตตะนันทน์ ทำการจับสลากเสี่ยงทายเพื่อประจำในแต่ละทิศของฐานพระ



ท่านพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา ทำการจับสลากเสี่ยงทายเพื่อประจำในแต่ละทิศของฐานพระ



ท่านพลเอก ประยุทธ จันทร์โอชา ทำการจับสลากเสี่ยงทายเพื่อประจำในแต่ละทิศ

ข่าวหลวงปู่ในสื่อต่างๆ







เนื้อหาในข่าว

หลวงปู่พุทธะอิสระ วัดอ้อน้อย อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม กำลังเป็นที่จับตามองของสังคมไทย
เพราะนอกจากจะมีบารมีเชิญ ผบ.ทบ. และ 3 อดีต ผบ.ทบ มาร่วมพิธีเททองพระนาคปรกแล้ว
หลวงปู่พุทธะอิสระยังใกล้ชิดกับ นายสนธิ ลิ้มทองกุล อีกด้วย
หลวงปู่พุทธะอิสระ เล่าให้ฟังว่า นายสนธิ มาอยู่ที่วัดอ้อน้อยตั้งแต่ล้มละลายครั้งแรก และได้ให้คำแนะนำว่าจะทำอย่างไรถึงอยู่ได้ สมัยก่อนนายสนธิ ซี้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ หลวงปู่จึงเขียนจดหมายไปหานายสนธิ มีใจความว่า

“วันนี้ในฐานะที่เป็นสื่อ ควรจะต้องวางตัวเป็นกลาง ถ้าเมื่อไหร่ไปเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ก็จะโดนอีกฝ่ายหนึ่งตำหนิ ด่า และวันนี้ด่าคนได้ทั้งแผ่นดิน เพราะเป็นกลาง แต่ถ้าเป็นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง จะโดนคนทั้งแผ่นดินด่า ฉะนั้นควรทำตัวให้เป็นกลาง วันนี้จะเห็นว่า มึงดีกับเขา เขาดีกับมึง แต่วันข้างหน้า มึงกับเขาจะทะเลาะกัน”

ไม่นาน เขาก็ทะเลาะกัน แต่เรื่องอะไรก็ไม่รู้ หลวงปู่ไม่อยากจะเข้าไปก้าวก่าย จากนั้นเขาก็มาสู้กับทักษิณ เราเลยบอกว่า ไอ้การที่สู้กับกำลังส่วนใหญ่ เราคนเดียวคงทำไม่ได้ เราต้องหาวิธีที่จะต้องสร้างแนวร่วม ต้องความจริงให้เป็นที่ประจักษ์ให้ได้ เขาทำอะไรไม่ดีไว้ต่อบ้านเมือง เราต้องทำความจริงให้ปรากฎ ให้คนทั้งหลายเห็น แล้วจะไม่ต้องสู้คนเดียว เลยเป็นที่มาของการสร้างเอเอสทีวี

ที่มีเสียงพูดกันว่า พุทธานุภาพของหลวงปู่ทวดรุ่นแช่เลือดรุ่นแรกที่หลวงปู่พุทธะอิสระทำขึ้น ทำให้นายสนธิ รอดชีวิตจากการถูกยิงถล่มด้วยปืนอาร์ก้าและเอ็ม 16 เมื่อปี 2552 เคยสอนผู้คนว่า เทวดากับสวรรค์ หน้าที่คือ ให้พรมนุษย์ ขอเพียงทำดี พรนั้นก็สำเร็จตามที่หวังไว้ เพราะเชื่อว่าศรัทธาที่มีทำให้เกิดปาฏิหาริย์
“หลวงปู่ทำหลวงปู่ทวดเนื้อเงินกับเนื้อผง แช่เลือดไว้ 1 พรรษา แล้วก็สวดมนต์ทุกวัน ไว้แจกวันกฐิน สนธิ มาทอดกฐิน แล้วก็มาขอไป 200 องค์ เพื่อเอาไปแจกพวกพ้อง แล้วเจ้าตัวก็ห้อยไว้ 1 องค์ ถามว่า พระมีปาฏิหาริย์ไหม ก็ไม่แน่ใจ คนมันจะไม่ตาย ไม่เกี่ยวกับพระ”
ประวัติ.....หลวงปู่พุทธะอิสระ หรือ พระสุวิทย์ ธีรธมฺโม เป็นชาวกรุงเทพฯ โดยกำเนิด พ่อชื่อนายชมภู แม่ชื่อนางอัมพร นามสกุล ทองประเสริฐ เกิดเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2499 การศึกษาเล่าเรียนทางโลก ไม่จบชั้นประถมปีที่ 4 แต่การเล่าเรียนทางธรรมจบนักธรรมเอก

บวชครั้งแรกเมื่ออายุ 20 ปี ที่วัดคลองเตยใน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ บวชได้เพียงพรรษาเดียว ก็สึกออกไปเป็นทหาร 2 ปี หลังเสร็จภารกิจทางทหาร ก็กลับมาบวชใหม่ที่วัดเดิม ได้รับฉายาว่า "ธมฺมธีโร" แปลว่า "ปราชญ์ทางธรรม"
อยู่วัดคลองเตยในได้ประมาณ 6 ปี ก็มาสร้างวัดอ้อน้อย อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม
ในปี 2532 สร้างวัดเสร็จภายใน 3 ปี ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ยกฐานะเป็นวัด เมื่อสร้างวัดเรียบร้อยก็ให้พระลูกศิษย์ดูแลวัด แล้วออกธุดงค์เพื่อฝึกฝนปฏิบัติธรรมอย่างจริงจังเป็นเวลากว่า 5 ปี
หลวงปู่พุทธะอิสระกลับมาดูแลวัดอ้อน้อยอีกครั้ง เพราะได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2538

วันที่ 1 ตุลาคม 2542 ท่านได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบลห้วยขวาง แทนเจ้าคณะเก่าที่มรณภาพไป

วันที่ 16 กันยายน 2544 หลวงปู่ได้ยื่นหนังสือลาออกจากทุกตำแหน่งอย่างเป็นทางการกับเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม

"เป็นความรู้สึกค้างคาในใจว่า เราทำงานไม่ได้หวังที่จะได้อะไร แต่เราทำงานเพื่อเป็นพุทธบูชา ด้วยความศรัทธาในพระธรรมวินัย และอุดมการณ์ของศาสนา"


ที่มา สมัยก่อน สนธิ ซี้ พ.ต.ท.ทักษิณ - MSN ข่าว



ผ้าไตรพระราชทาน


ข้าพเจ้าจำได้ว่า เมื่อตอนที่ข้าพเจ้าฝึกเป็นผ้าขาวในวัดอ้อน้อย ก่อนที่จะบวชกับหลวงปู่ในช่วงน้ำท่วม ได้มีผู้แทนพระองค์ เดินทางมาที่วัดเพื่อถวายผ้าไตรพระราชทานจาก เจ้าฟ้าหญิงอุบลรัตน์ ให้กับองค์หลวงปู่ ซึ่งในตอนนั้น หลวงปู่กำลังทำกับข้าวเพื่อไปช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมอยู่ เมื่อผู้แทนพระองค์ได้พบกับหลวงปู่ จึงแจ้งเหตุที่มาให้ท่านทราบ หลวงปู่ท่านจึงพูดกับคณะผู้แทนพระองค์ว่า ถ้าจะถวาย ก็ให้ถวายที่นี่(ในครัว) เหตุผลเพราะถ้าจะให้ท่านทิ้งงานในครัวไป เพื่อไปนั่งทำพิธี ถ่ายรูปรับมอบผ้าไตร ท่านก็จะไม่ขอรับเพราะยังมีชาวบ้านที่ต้องทนทุกข์หิวข้าวอีกจำนวนมาก ที่รออาหารจากท่าน จึงเป็นการเห็นแก่ตัวเกินไปที่จะละทิ้งชาวบ้านไปทำเพื่อตัวเอง และตัวท่านเองก็มีผ้ามากพออยู่แล้วไม่ขาดแคลนอะไร

ทางคณะผู้แทนพระองค์ได้ฟังดังนั้น จึงต้องปรึกษากันอยู่นาน ว่าจะทำยังไงดีจะเอากลับก็ไม่ได้ จะถวายก็ต้องถวายเลย ไม่มีพิธีรีตอง ไม่มีถ่ายภาพ และก็ไม่ทราบว่าเป็นการตัดสินใจของใคร ทางคณะผู้แทนพระองค์จึงยอมตกลง ที่จะถวายผ้าไตรพระราชทานให้กับหลวงปู่ที่ในครัว แต่ก่อนที่หลวงปู่จะรับมอบนั้น หลวงปู่ท่านจึงเดินไปเอามือป้ายก้นกะทะที่ดำๆ แล้วเอามาป้ายที่หน้าของท่านเอง ก่อนที่จะรับถวายผ้าไตรพระราชทาน มือนึงถือตะหลิว อีกมือนึงรับผ้าไตร ซึ่งในภายหลังหลวงปู่บอกเหตุผลที่ทาหน้าให้ดำว่า กูเห็นว่า มีศิษย์บางคนแห่กันมาเพื่อเอาหน้า กูเห็นบางคนตั้งแต่น้ำท่วมมา กูไม่เคยเห็นมันมาช่วยงานกูเลย ทีเค้าจะเอาผ้าไตรมาถวายกลับเสนอมากันเต็มไปหมด กูทำงานไม่ได้เอาหน้า กูเลยทาหน้าให้มันดำซะเลย

และหลังจากวันนั้น ก่อนวันที่ข้าพเจ้าจะได้บวช ในวันทำขวัญนาค ก็ได้มีผ้าไตรพระราชทานมาจาก เจ้าฟ้าหญิงอุบลรัตน์อีกจำนวน ๒ ไตร เพื่อมอบให้แก่พระที่บวชถวายหลวงในครั้งนี้ นั่นแสดงให้เห็นถึงพระราชหฤทัยอันกว้างขวางและงดงาม ที่ไม่ทรงถือพระองค์ กับการที่หลวงปู่รับผ้าไตรพระราชทานจากพระองค์ในครัว และในขณะเดียวกัน ทางผู้แทนพระองค์ก็ได้กราบเรียนกับหลวงปู่ว่า ท่านเจ้าฟ้าหญิงท่านชอบศึกษาธรรมมะ และชอบปฏิบัติธรรม และพระองค์ก็ทรงเคารพในองค์หลวงปู่มาก ซึ่งข้าพเจ้าได้เห็นความนอบน้อมของผู้แทนพระองค์แล้วยังอดชื่นชมในใจไม่ได้ ถึงความนอบน้อม ถ่อมตัว ยิ้มแย้ม ไม่แสดงถึงความเป็นผู้มีทิฐิมานะถือตัวแต่ประการใดเลย ทั้งกับองค์หลวงปู่ และกับทุกๆคนในวัด ภาพในวันนั้นจึงเป็นหนึ่งในความประทับใจยากที่จะลืมได้อีกครั้งนึงในชีวิต จริงๆ

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

ภาพพิธีรับผ้าไตรพระราชทานจาก

สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ์ สยามมกุฎราชกุมาร
และ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร
ทรงพระราชทานให้แก่คณะสงฆ์วัดอ้อน้อย (ธรรมอิสระ)
เพื่อใช้ในงานพิธีบรรพชาอุปสมบทพระภิกษุและสามเณรหมู่ ภาคฤดูร้อนประจำปี ๒๕๕๕
















ขอพระองค์ทรงพระเจริญ



 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น